หน้าแรก / R-SCI 101 • กรกฎาคม 11, 2023

3 ความเข้าใจผิดๆ เกี่ยวกับการปลูกผักออร์แกนิค

ผักออร์แกนิค

ไขข้อข้องใจ กับ 3 ความเข้าใจผิดๆเกี่ยวกับการปลูกผักออร์แกนิค (Organic)

ปัจจุบันนี้ ในยุคที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับเรื่องของสุขภาพกันมากขึ้น และหันมาสนใจผลิตภัณฑ์ออร์แกนิคโดยเฉพาะพืชผักออร์แกนิคยิ่งได้รับความนิยมสูง แต่คนโดยส่วนใหญ่ก็ยังมีความเข้าใจผิดๆเกี่ยวกับผักออร์แกนิค การปลูกผักออร์แกนิค หรือการทำเกษตรอินทรีย์อยู่หลายประการด้วยกัน

ซึ่งหลายคนอาจคิดว่าผักออร์แกนิค ผักปลอดสารพิษ และผักไฮโดรโปนิกส์ เป็นผักชนิดเดียวกัน เลยเรียกรวมๆกันว่า ผักออร์แกนิค และบางท่านเข้าใจว่าการที่ปลูกผักหลังบ้านแบบไม่ใช้สารเคมีเลย หรือปลูกผักกางมุ้ง ก็คือการปลูกผักออร์แกนิคแล้วนั้น ความเป็นจริงแล้วผักออร์แกนิคหรือผักอินทรีย์ มีลักษณะเฉพาะที่แตกต่างจากผักประเภทอื่น ๆ อยู่หลายประการ บทความนี้ อาศัย อินทรีย์ จะไขข้องใจและแก้ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการปลูกผักแบบออร์แกนิคกันค่ะ

ผักออร์แกนิค

ทำความรู้จักเกี่ยวกับ “ผักออร์แกนิค”

ผักออร์แกนิค หรือผักเกษตรอินทรีย์ คือพืชผักที่ได้มาจากกระบวนการผลิตที่ถูกควบคุมไม่ให้มีการปนเปื้อนของสารเคมี หรือเคมีสังเคราะห์ในทุก ๆ ขั้นตอนการผลิตครับ ผักออร์แกนิคจึงเป็นผักที่มีความเป็นธรรมชาติสูง เพราะจะปลูกโดยการดัดแปลงสภาพแวดล้อมเลียนแบบธรรมชาติ ปราศจากการใช้สารเร่งการเติบโต จึงเจริญเติบโตด้วยระยะเวลาตามธรรมชาติ การใช้สารกำจัดศัตรูพืชหากจำเป็นก็ต้องเป็นสารกำจัดศัตรูพืชที่ได้มาจากธรรมชาติเท่านั้น หรือหากจะใช้ปุ๋ยก็ต้องเป็นปุ๋ยจากธรรมชาติเช่นกัน

ด้วยกระบวนการในการปลูกผักออร์แกนิคที่ต้องปราศจากสารเคมี ดังนั้น จึงต้องอาศัยความเอาใจใส่ การเตรียมการที่ใช้เวลานาน เช่น ดินที่ปลูกต้องปราศจากสารเคมีไม่ต่ำกว่า 3 ปี น้ำที่ใช้จะต้องไม่ปนเปื้อนสารเคมี ทำให้ผักออร์แกนิคมีต้นทุนในการผลิตสูงกว่าผักทั่วไปครับ

ทั้งนี้ผักออร์แกนิคที่เป็นออร์แกนิคแท้ๆ จะต้องได้รับการรับรองมาตรฐานจากหน่วยงานที่ทำหน้าที่ในการตรวจสอบมาตรฐานผลิตภัณฑ์ออร์แกนิคที่เป็นองค์กรอิสระ เช่น สำนักงานมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ (Organic Agriculture Certification Thailand) IFOAM (International Federation of Organic Agriculture Movements) หรือ JAS ย่อมาจาก Japanese Agricultural Standard ซึ่งเป็นมาตรฐานรับรองสินค้าออร์แกนิค ที่กำหนดโดยกระทรวงเกษตร ป่าไม้ และประมง ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งจะเห็นบนฉลากสินค้าออร์แกนิคที่ส่งออกหรือนำเข้าญี่ปุ่น เป็นต้น

ผักออร์แกนิค VS ผักไฮโดรโปนิกส์ กับสิ่งที่หลายคนเข้าใจผิด

เพราะทั้งผักออร์แกนิค และผักไฮโดรโปนิกส์ ถือเป็นผักยอดนิยม ที่ได้รับการยอมรับและถือว่าเป็นวัตถุดิบอย่างดีในการประกอบอาหาร เชื่อว่าหลาย ๆ คน โดยเฉพาะผู้ที่รักสุขภาพ หรือกำลังดูแลรักษารูปร่าง ก็คงเลือกซื้อผักสองประเภทนี้มาทาน หรือประกอบอาหารกันเป็นประจำ

หลายท่านอาจจะยังแยกไม่ออกว่าผักออร์แกนิค และผักไฮโดรโปนิกส์นั้น มีความแตกต่างกันอย่างไร เราจะเลือกทานผักแบบไหนยังไงดี อาศัย อินทรีย์ เรามีคำตอบและข้อแนะนำดี ๆ มาฝากคนชอบทานผักกันครับ

ผักออร์แกนิค

ผักออร์แกนิค คืออะไร

ผักออร์แกนิค คือพืชผักที่ได้มาจากกระบวนการผลิตที่ถูกควบคุมไม่ให้มีการปนเปื้อนของสารเคมี หรือเคมีสังเคราะห์ในทุก ๆ ขั้นตอนการผลิต ผักออร์แกนิคจึงเป็นผักที่มีความเป็นธรรมชาติสูง เพาะปลูกโดยการดัดแปลงสภาพแวดล้อมเลียนแบบธรรมชาติ ปราศจากการใช้สารเร่งการเติบโต การใช้สารกำจัดศัตรูพืช หรือใช้ปุ๋ย (หากจำเป็น) ก็ต้องเป็นสารกำจัดศัตรูพืชหรือปุ๋ยที่ได้มาจากธรรมชาติเท่านั้น การปลูกผักออร์แกนิค จึงต้องอาศัยความเอาใจใส่ การเตรียมการที่ใช้เวลานาน และมักจะมีต้นทุนในการผลิตสูงกว่าผักทั่วไปครับ

ผักไฮโดรโปนิกส์

ผักไฮโดรโปนิกส์ คืออะไร

ผักไฮโดรโปนิกส์ (Hydroponics) หรือพืชไร้ดิน คือ พืชที่ปลูกด้วยการใช้น้ำทดแทนการใช้ดิน โดยคำว่า “hydro” หมายถึงน้ำ และ “ponos” หมายถึงงาน มารวมกันกลายเป็นคำว่า ไฮโดรโปนิกส์ (Hydroponics) ซึ่งหมายถึงการทำงานของน้ำนั่นเอง พืชที่ปลูกด้วยวิธีไฮโดรโปนิกส์ จะได้รับสารธาตุอาหารผ่านทางน้ำ (สารธาตุอาหาร ก็คืออาหารพืชซึ่งเป็นสารสกัดทางเคมี หรือปุ๋ยเคมีนั่นแหละครับ) โดยรากจะดูดซึมเพื่อไปสร้างการเจริญเติบโตให้กับส่วนต่าง ๆของพืช

ความแตกต่างระหว่าง ผักออร์แกนิค กับ ผักไฮโดรโปนิกส์

1. กระบวนการปลูกผัก

ผักไฮโดรโปนิกส์ (Hydroponics) เติบโตจากการปลูกด้วยน้ำและสารธาตุอาหารที่ถูกผลิตขึ้นด้วยกระบวนการทางเคมี และควบคุมระดับการใส่อย่างพอเหมาะ ในขณะที่ผักออร์แกนิค คือผักที่ปลูกด้วยวิธีการทางธรรมชาติ ไม่มีการปนเปื้อนของสารเคมีเลย

ผักไฮโดรโปนิกส์ (Hydroponics) ถูกคิดค้นหรือออกแบบเพื่อตอบโจทย์สำหรับคนเมืองที่มีที่ดินหรือพื้นที่เพาะปลูกจำกัด จึงปลูกพืชโดยอาศัยน้ำทดแทนดิน ในขณะที่แนวคิดเกี่ยวกับการเพาะปลูกผักออร์แกนิคนั้น เน้นการปลูกโดยจำลองพื้นที่ให้ใกล้เคียงกับธรรมชาติ เพื่อผลิตพืชผักที่ให้คุณค่าทางอาหารแบบ Back to Nature หรือธรรมชาติล้วน ๆ 100% (ซึ่งจะมีต้นทุนในการผลิตที่สูง)

2. การใช้สารกำจัดศัตรูพืช

การปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ (Hydroponics) ไม่ต้องใช้สารกำจัดศัตรูพืช เพราะมักปลูกในโรงเรือนแบบปิด เน้นกระบวนการปลูกโดยใช้สารสกัดทางเคมีซึ่งทำให้พืชเจริญเติบโตได้ดีอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องใช้ยาฆ่าแมลงหรือจำกัดศัตรูพืชต่าง ๆ ผู้ที่เลือกทานผักไฮโดรโปนิกส์ ไม่ต้องกงัวลเรื่องสารเคมีตกค้างจากการกำจัดศัตรูพืชครับ

ในขณะที่การปลูกผักแบบอร์แกนิคนั้น มักปลูกในโรงเรือนแบบเปิด เน้นการใช้ดินตามธรรมชาติที่ปราศจากการปนเปื้อนของสารเคมี (ดินที่ใช้เพาะปลูกต้องทำให้ปลอดสารพิษไม่น้อยกว่า 3 ปี ) ดังนั้น แปลงพืชผักออร์แกนิคมักจะมีศัตรูพืชมาเยี่ยมเยียนครับ ก็อาจจะจำเป็นต้องใช้การกำจัดศัตรูพืช โดยการใช้สูตรต่าง ๆ ตามธรรมชาติ ซึ่งผู้บริโภคก็ไม่ต้องกังวลเรื่องสารเคมีตกค้างเช่นกันครับ

เรียกได้ว่า แม้กระบวนการจะแตกต่างกัน แต่ผลลัพธ์เรื่องการกำจัดศัตรูพืชของผักออร์แกนิค กับผักไฮโดรโปนิกส์มีความ ปลอดภัยเช่นเดียวกัน

3. สารอาหารและคุณประโยชน์

แต่หลายคนก็คงทราบว่า ผักออร์แกนิค ได้รับการยอมรับว่าเป็นอาหารที่ปลอดภัยและอุดมไปด้วยแร่ธาตุมากกว่าผักที่ปลูกโดยการใช้สารเคมี ผักออร์แกนิคจึงได้รับความนิยมอย่างสูงในแวดวงของคนที่รักสุขภาพ เพราะการได้รับประทานผักที่ปราศจากสารเคมี สารพิษปนเปื้อน อุดมไปด้วยแร่ธาตุตามธรรมชาติ จะช่วยลดความเสี่ยงจากโรคภัยไข้เจ็บที่เกิดจากการสะสมสารเคมีหรือสารพิษต่าง ๆ ในร่างกาย ช่วยฟื้นฟูสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงขึ้น ร่างกายสดชื่นแจ่มใส ดูดีขึ้นเพราะได้ทานอาหารที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุ

ในส่วนของผักไฮโดรโปนิกส์นั้น จุดเด่นจะอยู่ที่เป็นผักที่มีความอิ่มน้ำ มีเส้นใยอาหารสูง อุดมไปด้วยแร่ธาตุที่หลากหลาย ผักไฮโดรโปนิกส์มีความสดใหม่ กรอบ และอร่อย (ทำเมนูสลัดคือชนะเลิศมาก ๆ)

หลายคนที่กังวลว่า ผักไฮโดรโปนิกส์ มีกระบวนการปลูกที่ใช้ปุ๋ยหรือสารอาหารที่เป็นเคมี จะมีการปนเปื้อนหรือตกค้างหรือเปล่า เราขอตอบว่า หากคุณเลือกทานผักไฮโดรโปนิกส์จากฟาร์มผักที่มาตรฐานในการผลิตแล้วล่ะก็ หมดกังวลเรื่องสารเคมีตกค้างได้เลยครับ เพราะการปลูกแบบไฮโดรโปนิกส์ที่ดี จะต้องมีการควบคุมระดับความเข้มข้นของสารละลายธาตุอาหารที่เหมาะสม มีการกำหนดวันเก็บเกี่ยวที่มั่นใจได้ถึงปลอดภัยจากสารพิษตกค้างในผัก การทานผักไฮโดรโปนิกส์จากฟาร์มผักที่มีมาตรฐานจึงมีความปลอดภัย ได้ประโยชน์ต่อสุขภาพเช่นเดียวกัน